ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ สรุปผลงานปี 2567 ยอดขายเกินมา 435 ล้านบาท
จากที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท โดยตลาดคอนโดฯ
ได้ไปถึง 82% เช่นเดียวกับที่บางเทา ศรีราชา และเตาปูน
ยอดขายทะลุ 50% แล้ว ส่วนลูกค้าต่างชาติได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยยอดขาย 5,700 ล้านบาท จากการเปิด Origin Agent
Club ดังนั้นการดำเนินงาน จะใช้ทั้งในเรื่อง Insight Initiative
และ Implementation มาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกโครงการตรงกับความต้องการ
และเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค 
นายพีระพงศ์
จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) เปิดเผยว่า ในปี 2567
ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขาย (Presales) จากโครงการที่อยู่อาศัย
35,435 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการบ้านแนวราบภายใต้ บริษัท บริทาเนีย
จํากัด (มหาชน) อยู่ที่ 6,544 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ขณะที่ยอดขาย คอนโดมิเนียมอยู่ที่ 28,891 ล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วน 82% ภายใต้ บริษัท ออริจิ้น
เวอร์ติเคิลคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ORIGIN VERTICAL) เป็นการตอกย้ำความสำเร็จโครงการเปิดใหม่และโครงการพร้อมอยู่
ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยที่สร้างความพึงพอใจได้ครอบคลุมตลาด
Gen Y – Gen Z 
ทั้งนี้
จากยอดขายรวมทั้งหมดในปีที่ผ่านมา แบ่งสัดส่วนตามสถานะโครงการเป็นที่อยู่อาศัย (คอนโดมิเนียม
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด) พร้อมอยู่คิดเป็น
55% กระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ
และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ส่วนที่เหลือประมาณ 45%
เป็นยอดขายจากโครงการที่เปิดขายใหม่ หรืออยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้าง ซึ่งโครงการเปิดใหม่ในปี
2567 เน้นพื้นที่ทำเลระดับท็อปของประเทศรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท
แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท และเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 14,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดฯพัฒนาภายใต้แนวคิด
“Creative Living for All” สู่ผู้บริโภค มูลค่ารวมกว่า 14,500 ล้านบาท อาทิ โครงการโซ ออริจิ้น บางเทา บีช ระดับ Luxury สูง 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายไปแล้ว 77%, โครงการ ดิ
ออริจิ้น ศรีราชา แบบ Low Rise 2 อาคาร สูง 8 ชั้น สไตล์ญี่ปุ่น มูลค่ารวม 750 ล้านบาท
มียอดขายแล้วประมาณ 50% และโครงการ ออริจิ้น เพลส เตาปูน
อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้
มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท ขายไปแล้ว 66%
เป็นต้น
ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดใหม่
4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900
ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด “Crafting
for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ภายใต้ 3
Dimensions Strategy ประกอบด้วย โครงการ ดุสิตสวีท เรสซิเดนเซส
เขาใหญ่ (Dusit Suites Residences Khaoyai), โครงการ
บริทาเนีย เวสต์เกต (Britania Westgate), โครงการ บริทาเนีย
ราชพฤกษ์ 345 (Britania Ratchaphruek 345) และโครงการ
เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Belgravia Exclusive
Ratchaphruek-Rama 5)
นอกจากกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ที่ดีด้านที่อยู่อาศัยให้กลุ่มลูกค้าบ้านและคอนโดฯแล้ว
บริษัทฯ ได้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ
เพื่อสร้างโอกาสด้านการตลาดและการขายเข้าถึงลูกค้ารายใหม่
ด้วยการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเปิดตัว Origin Agent Club จับมือเอเจนท์กว่า 300 ราย เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้ยอดขายต่างชาติทั้งปีทะลุ 5,700 ล้านบาท เติบโต 225%
และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา อีกทั้งยังเตรียมเดินสายโรดโชว์ในปี
2568 พร้อมกับมีแผนเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ
เพื่อนำอสังหาฯ ไทยเจาะตลาดโลก
ไม่เพียงเท่านั้น ปีที่ผ่านมามีการจัดทัพทีมผู้บริหารใหม่
ปรับโครงสร้างใหญ่กลุ่มธุรกิจคอนโดฯ รวมพลังและทีมงานระดับมืออาชีพ วางรากฐาน New
S-Curve การกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเติบโตยั่งยืน 
พร้อมกันนี้
นายพีระพงศ์ ยังกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า แม้ตลอดปี 2567
ภาพโดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยนั้นเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงในหลายๆ ด้าน
แต่ยังเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพราะบ้านยังคงเป็นปัจจัย
4 ที่สำคัญ
ดังนั้นการจะเลือกเปิดตัวโครงการใหม่ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนและโดดเด่น
สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจจากเดิมมีแผนจะซื้ออยู่แล้วแต่อาจลังเลให้รู้สึกว่า
ออริจิ้น มีของดีมานำเสนอแบบที่พลาดไม่ได้จริงๆ
และเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สิ่งที่ ออริจิ้น ให้ความสำคัญ คือ
การปรับตัว ระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ การพิจารณาการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น
จึงมีความยืดหยุ่น เพิ่ม หรือ ลด ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ
และธุรกิจเมกะเทรนด์ รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งรายเก่าและรายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรมตามแผนสร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด
“เราดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น โดยนำข้อมูลเชิงลึก
(Insight) ของลูกค้า
นำมาทำข้อมูลด้านการวิจัยและวิเคราะห์อย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ ทำเล
การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ การลงทุน อย่างจริงจัง
เพื่อออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้มากที่สุด และต่อยอดความคิดริเริ่ม
(Initiative) ฟังก์ชันใหม่
โปรดักส์ใหม่ อย่างสร้างสรรค์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม และนำไปปฏิบัติ
(Implementation) ด้วยการใช้เทคโนโลยี
นวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของโครงการ ตลอดจนบริการต่างๆ
ที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตของผู้คนยุคใหม่
เพื่อให้ทุกโครงการสร้างความประทับใจและพึงพอใจสูงสุดต่อผู้บริโภค” นายพีระพงศ์
กล่าวถึง Key Success Factor สำคัญที่ทำให้
ออริจิ้น ประสบความสำเร็จในปี 2567 ที่ผ่านมา
ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้ 3I 
ทั้งนี้ บริษัทในเครือที่เป็นบริษัทมหาชน ได้แก่ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) จะเตรียมทยอยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2568 ในช่วงไตรมาส 1/2568 นี้ โดย บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) น่าจะประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือน มี.ค.2568 ที่จะเปิดเกมส์บุกตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง
|