“คูคตมอลล์” มาได้ครบทั้งกิน เที่ยว ช้อป

        เอ็มที แอสเสท รีโนเวทโปรเจคเดิม พัฒนาเป็น “MT Khu Khot Lifestyle Mall” ด้วยงบ 100 ล้านบาท รองรับทำเลย่านคูคต ที่กำลังบูมอย่างมากหลังการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ โดยเตรียมส่งมอบพื้นที่เช่าในไตรมาสแรกปี 2567 คาดว่าผู้ใช้ต่อวันจะอยู่ที่ 3 พันคน และเพิ่มอีกเท่าตัวในวันหยุด ซึ่งมั่นใจจะคืนทุนได้ภายใน 3 ปี



       ดร.วรพจน์ กันตพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มที แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ทำเลย่านคูคต กำลังจะเป็นทำเลทองของโซนกรุงเทพฯ เหนือไปแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทฯ ได้นำโครงการรีเทลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งอยู่ติดถนนลำลูกกา และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าคูคตเพียง 400 เมตร ขึ้นมารีโนเวท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ในชื่อ MT Khu Khot Lifestyle Mall” 

       โครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall เป็นการนำ MT Arena Sport & Lifestyle Mall มารีโนเวทและต่อเติมโดยเริ่มทำตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ยังคงรูปแบบธุรกิจที่เป็นโครงการอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า แต่เน้นเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกมากขึ้นเพื่อรองรับปริมาณผู้บริโภคในพื้นที่ที่กำลังขยายตัว และเพื่อเพิ่มรายได้จากการเก็บค่าเช่าพื้นที่ 

       สำหรับ MT Khu Khot Lifestyle Mall มีเนื้อที่ 10 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ อาคารหนึ่งชั้นที่เป็น Makro Food Service พื้นที่ 4,400 ตร.ม. โดยร้านค้าในมอลล์จะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม และร้านสุขภาพและความงาม ส่วนที่สองเป็น Starbucks Drive Thru แห่งแรกบนถนนลำลูกกา ซึ่งทั้งสองส่วนได้เปิดให้บริการแล้ว และส่วนสุดท้ายเป็นมอลล์ขนาด 3 ชั้น จำนวน 16 ยูนิต ที่จะเป็น food destination แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านคูคต รวมพื้นที่ขาย 1,600 ตร.ม. ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 70% และได้เปิดขายพื้นที่แล้วตั้งแต่กลางปี ล่าสุดปิดได้แล้ว 40% โดยตั้งเป้าจะปิดการขายได้ทั้งหมดและส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้เช่าได้ในไตรมาสแรกปี 2567 พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาสสอง 

    

       “ภายหลังรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการ วิ่งเชื่อมกรุงเทพฯ และปทุมธานี ทำให้ราคาที่ดินโซนคูคตพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ สูงทะลุ 100% ไปแล้วเมื่อเทียบกับราคาเมื่อปี 2563 ก่อนมีบีทีเอส ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เกิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการจากฝั่งผู้ซื้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ซื้อเพื่ออยู่จริงและเพื่อลงทุน” ดร.วรพจน์ กล่าว 

       สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีทั้งผู้อาศัยและทำงาน ในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโครงการฯ ครอบคลุมโซนลำลูกกา รังสิต สายไหม ผู้ใช้บริการบีทีเอส สถานีคูคต และอาคารจอดแล้วจร สถานีคูคตและแยก คปอ. ที่มีผู้นำรถยนต์และจักรยานยนต์มาจอดต่อวันกว่า 2,100 คัน รวมถึงข้าราชการจากหน่วยงานราชการต่างๆ และกองทัพอากาศ ผู้ปกครองและนักเรียนจากโรงเรียนโดยรอบ ผู้มาใช้บริการและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา

       นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการภายในโฮมออฟฟิศ ‘MT ลำลูกกา’ ซึ่งอยู่ติดกับ MT Khu Khot Lifestyle Mall และลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจอีกด้วย ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมถึงอานิสงส์จากดีมานด์มหาศาลที่มาจากโครงการขนาดใหญ่ของดีเวลลอปเปอร์บิ๊กแบรนด์ต่างๆ ที่ทยอยเปิดตัวในย่านคูคต โดยเมื่อโครงการฯ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทฯ คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3,000 คนในวันธรรมดา และเพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษ 

       ดร.วรพจน์ กล่าวอย่าวมั่นใจว่า โครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall จะได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่ช่วงเปิดตัว และสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 90% อีกทั้งจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนจากงบที่ลงทุนภายในไม่ถึง 3 ปี เนื่องจากที่ตั้งของโครงการฯ เป็นทำเลศักยภาพสูง สามารถเก็บค่าเช่าได้ทั้งจากธุรกิจประเภทค้าส่ง อย่าง Makro Food Service และร้านค้าปลีกแบรนด์ต่างๆ ในส่วนของมอลล์

       นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจะคัดสรรธุรกิจของร้านค้าที่มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ และชาวคูคตให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะนำโครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall เข้าระดมทุนผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ในอีก 3 ปีหลังเปิดให้บริการในปีหน้าเพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการใหม่ต่อไป 

       บริษัท เอ็มที แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีจุดแข็งที่ประสบการณ์ในการพัฒนา บริหาร และขายโครงการอสังหาฯ มาหลากหลายประเภท และอยู่มานานกว่า 40 ปี โดยปัจจุบันมีทำเลอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม บางเขน จังหวัดนนทบุรี ต่อไปถึงพื้นที่ลำลูกกาและคลองหลวง ในจังหวัดปทุมธานี โดยเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงมาตลอด และแบ่งพอร์ตออกเป็นสองด้าน ได้แก่ โครงการเพื่อการขายและปล่อยเช่า มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 70:30 เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ และเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ MT อีกด้วย สำหรับโครงการเพื่อการขาย บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการทำทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม โฮมออฟฟิศ มินิแฟคตอรี่ รวมถึงซื้อขายที่ดินเปล่าจัดสรร ขณะที่โครงการเพื่อปล่อยเช่า มีตั้งแต่ไลฟ์สไตล์มอลล์ ตลาดสด อพาร์ทเม้นท์ ไปจนถึงโรงแรม 

    

      ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายที่ 145 ล้านบาท และจากการปล่อยเช่า 45 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 50% ส่วนของปีนี้จนถึงไตรมาสสาม รับรู้รายได้รวมไปแล้วกว่า 160 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 120 ล้านบาท และจากการปล่อยเช่า 40 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะทำรายได้ทั้งสิ้นอยู่ราว 210 ล้านบาท จากการปิดโครงการคอนโดมิเนียม MT Residence คลองหลวง จำนวน 312 ยูนิต ที่ได้มีการโอนไปแล้วมากกว่า 80% รวมกับรายได้ส่วนค่าเช่าจากโครงการต่างๆ ในมือ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาการเติบโตต่อเนื่องได้อีกปีที่ 10%

 
เว็บสำเร็จรูป
×